Affiliate Marketing คืออะไร และทำอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ?

Affiliate Marketing อีกหนึ่งวิธีในการหารายได้เสริมที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน คุณสามารถขายของออนไลน์ได้โดยไม่ต้องลงทุนเลยแม้แต่บาทเดียว ไม่จำเป็นต้องมีสินค้าหรือมีแบรนด์เป็นของตัวเอง เรากำลังพูดถึงการเป็นนายหน้าขายของออนไลน์ สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ ตอบโจทย์คนมีทุนน้อย รับผลตอบแทนเป็นค่าคอมมิชชั่นตามเงื่อนไขที่กำหนด ถ้าใครสนใจ ทำ Affiliate Marketing กับ Shopee และ Lazada แต่ยังลังเลหรือไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรสำหรับมือใหม่วันนี้ห้ามพลาด

สนใจ WMS

Affiliate Marketing คืออะไร และทำเงินอย่างไร

Affiliate Marketing คือ การเป็นนายหน้าขายของออนไลน์ หรือการโปรโมทสินค้าและบริการในช่องทางของเรา ไม่ว่าจะเป็นสื่อโซเชียลมีเดียหรือการสร้างเว็บไซต์และแอปฯ องค์ประกอบมี 3 ส่วนได้แก่ เจ้าของผลิตภัณฑ์หรือบริษัท Seller เป็นผู้ว่าจ้างให้บุคคลหรือบริษัททำการโปรโมทสินค้าและบริการผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ Publisher คือ บุคคลหรือบริษัทมีหน้าที่โปรโมทสินค้าและบริการผ่านช่องทางของตนเองหรือเรียกว่านายหน้าขายของออนไลน์จะได้รับค่าตอบแทนในรูปแบบค่าจ้างหรือค่าคอมมิชชั่นในการขายสินค้า Customer คือลูกค้าหรือกลุ่มผู้บริโภคที่ติดตาม Publisher ในช่องทางต่างๆ ผู้ซื้อสินค้าและบริการผ่านการโปรโมท

Affiliate Marketing สามารถทำเงินให้คุณได้แบบง่ายๆ โดยไม่ต้องลงทุนเพียงแต่ต้องลงแรงในการสร้าง Content และโปรโมทสินค้าหรือบริการผ่านช่องทางของตนเอง รูปแบบการสร้างรายได้แบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ ได้แก่

1. Pay per Sale (PPS) รายได้ที่เกิดขึ้นก็ต่อเมื่อมีการซื้อสินค้าหรือบริการ
2. Pay per Lead (PPL) รายได้ที่เกิดขึ้นก็ต่อเมื่อมีการสมัครหรือลงทะเบียน
3. Pay per Click (PPC) รายได้ที่เกิดขึ้นก็ต่อเมื่อมีการคลิกลิงค์

ทำ Affiliate Marketing กับ Shopee และ Lazada ดีไหม

การทำ Affiliate Marketing ในปัจจุบันที่ได้รับความนิยมอันดับต้นๆ คือ ทำ Affiliate ใน Shopee Affiliate และ Lazada Affiliate หลายคนอาจตั้งคำถามว่าทำ Affiliate กับ Shopee หรือ Lazada แบบไหนดีกว่ากันจริงๆ แล้วทั้งสองมีโมเดลคล้ายกัน คือการแนะนำสินค้าผ่านการทำลิงค์ของตนเอง แล้วนำไปแชร์ในช่องทางของตัวเอง จากนั้นได้รับค่าตอบแทนเป็นคอมมิชชั่น จากการที่ลูกค้าคลิกซื้อสินค้าผ่านลิงค์ที่เราโปรโมท

การทำ Affiliate รายได้ดีไหม ระหว่าง Shopee และ Lazada ทั้ง 2 แพลตฟอร์มนี้มีระบบหลังบ้านที่เราสามารถเข้าไปดูสถิติได้ด้วย คุณสามารถตรวจสอบได้ว่ามีคนคลิกลิงค์เท่าไหร่ สั่งซื้อสินค้าเท่าไหร่ และได้รับค่าคอมมิชชั่นเท่าไหร่ สำหรับการจ่ายค่าคอมมิชชั่นช้อปปี้ให้สูงสุดที่ 60% ในขณะที่ Lazada จ่ายสูงสุดที่ 80% Shopee ข้อดีคือมีผู้ใช้งานจำนวนมากในขณะที่ Lazadaนั้นให้ค่าคอมมิชชั่นที่สูงกว่า นอกจากนั้น Lazada ยังเน้นไปที่สินค้าจำพวกแฟชั่น บิวตี้ ดังนั้นถ้าเกิดคนที่มีฐานผู้ติดตามที่สนใจด้านนี้ ก็มีสิทธิ์ได้รับผลตอบแทนที่เยอะกว่า

วิธีเริ่มต้นทำ Affiliate Marketing สำหรับมือใหม่

สำหรับคนที่สนใจอยากเริ่มทำ Affiliate Marketing แต่ยังไม่มีประสบการณ์ มือใหม่เริ่มต้นอย่างไรดีเรามี 4 เคล็ดลับในการเริ่มต้นสร้างรายได้จากการทำ Affiliate Marketing มาฝากกัน

• เริ่มต้นจากการเลือกตลาดให้ดีก่อน Publisher เจ้าของสื่อหรือเจ้าของเว็บไซต์ต้องโปรโมทสินค้าในช่องทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Social Media อย่าง Facebook, Instagram นายหน้าติ๊กต๊อก TikTok, Line หรือช่องทางอื่นๆ ต้องมีการสร้างตัวตนให้ผู้ติดตามก่อนการสร้าง Content
• มองหาแพลตฟอร์มที่เชื่อถือได้ เช่น การทำ affiliate marketing กับ Shopee หรือ Lazada ทั้ง 2 แพลตฟอร์มนี้เป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่น่าเชื่อถือและได้รับความนิยมสูงทำให้มีโอกาสสร้างรายได้หรือรับค่าคอมมิชชั่นสูง
• เลือกสินค้าที่จะนำมาโปรโมทให้เหมาะสม สร้าง Content ให้สอดคล้อง อาจต้องวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ติดตามช่วยให้สร้าง Content ได้ดึงดูดน่าสนใจ กระตุ้นให้เกิดการซื้อและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างชัดเจน
• มีความสม่ำเสมอนำสินค้ามาโปรโมทสร้าง Content ลงในช่องทางต่างๆ โพสต์เป็นประจำ เน้นที่ความสม่ำเสมอสำคัญมากทำให้คุณมีโอกาสได้รับค่าคอมมิชชั่นสูงขึ้น

สรุป

สำหรับใครที่กำลังมองหาช่องทางในการสร้างรายได้หรือหาอาชีพเสริม affiliate marketing เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ไม่ควรมองข้าม ลงทุนน้อยหรือแทบไม่ต้องลงทุนอะไรเลย เพียงแค่ลงแรง และหาไอเดียในการสร้าง Content นำลิงก์ไปโปรโมทผ่านช่องทางต่างๆ รับผลตอบแทนหรือค่าคอมมิชชั่นจากการสั่งซื้อสินค้า การลงทะเบียนหรือการคลิกลิงค์ แล้วแต่เงื่อนไขที่กำหนด อยากเริ่มต้นทำ Affiliate Marketing แต่ไม่รู้จะทำอย่างไรสำหรับมือใหม่ก็เอาเทคนิคดีๆ ของเราไปใช้ได้ หรือคนที่อยากสร้างแบรนด์เป็นของตัวเองแต่ยังไม่มีประสบการณ์สามารถเริ่มต้นจากการเป็นนายหน้าขายของออนไลน์ก่อนได้เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ก่อนลงสนามจริง

เมื่อพูดถึงการขายของออนไลน์ สิ่งที่เราจะไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือระบบหลังบ้าน การมีระบบหลังบ้านที่ดีนั้นจะทำให้ทุกอย่างราบรื่น อย่างเช่นระบบจัดการออเดอร์และระบบจัดการคลังสินค้า OMS + WMS ของ Oasys ตัวช่วยให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์หรือคนทำธุรกิจออนไลน์ประสบความสำเร็จ ทำงานสะดวก รวดเร็ว แม่นยำ ไม่ผิดพลาดและลดต้นทุนได้อีกด้วย