10 ขั้นตอนการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในคลังสินค้าอีคอมเมิร์ซ

10 ขั้นตอนการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในคลังสินค้าอีคอมเมิร์ซ

การทำธุรกิจ E-Commerce หากมีการจัดการคลังสินค้าที่ดี ไม่ใช่แค่การรักษาสินค้าให้ปลอดภัย แต่ยังทำให้คุณสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย เมื่อมีการจัดเก็บสินค้าอย่างเป็นระบบมีระเบียบค้นหาสินค้าเจอได้ง่าย รู้ความเคลื่อนไหวของสินค้า แพ็คสินค้าได้เร็ว การจัดส่งสินค้าก็เร็วขึ้นตามไปด้วย

สนใจ WMS

การจัดการคลังสินค้าคืออะไร?

การจัดการคลังสินค้า หมายถึง กระบวนการติดตาม การจัดระเบียบและการเพิ่มประสิทธิภาพของสินค้าคงคลังเพื่อให้มั่นใจว่าระดับสินค้าคงคลังนั้นมีความถูกต้องและใช้พื้นที่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด มีการปฏิบัติตามคำสั่งซื้อได้ทันเวลาการใช้ซอฟต์แวร์หรือเครื่องมือที่ทันสมัย เช่น ระบบจัดการคลังสินค้า WMS ช่วยลดระยะเวลาในการทำงาน ลดข้อผิดพลาด ลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้เป็นอย่างดี

การจัดการคลังสินค้าคืออะไร

10 ขั้นตอนการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในคลังสินค้าอีคอมเมิร์ซ

1.จัดระเบียบสินค้าสร้างมาตรฐานในการจัดเก็บ

กระบวนการจัดการคลังสินค้า ขั้นตอนแรกที่สำคัญคือการสร้างมาตรฐานในการจัดเก็บ เริ่มต้นด้วยคำถามง่ายๆ เช่น ชนิดและวิธีการจัดเก็บ วิธีการคัดแยกสินค้า ค่าใช้จ่ายในการจัดการคลังสินค้า มาตรฐานการคืนสินค้า หรือการจัดการในด้านอื่นๆ ซึ่งการจัดการคลังสินค้าที่ดีจะต้องจัดการให้ถูกที่ ถูกเวลาและได้มาตรฐาน ตรงตามความต้องการของผู้ประกอบการ ภายใต้งบประมาณที่เหมาะสม

2.อย่ามองข้ามเรื่องเล็กๆ น้อยๆ

แม้สินค้าหายเพียง 1 ชิ้นก็อาจกลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นได้ ดังนั้น อย่ามองข้ามปัญหาเล็กๆ น้อยๆ การจัดการคลังสินค้าไม่ว่าปัญหานั้นจะเล็กน้อยแค่ไหนแต่ถ้ามันเกิดขึ้นบ่อยย่อมไม่ดีแน่ การจัดการคลังสินค้าที่ดีควรสำรวจตรวจสอบสิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละวันและจะดีมากๆ หากเรามี ระบบการจัดการคลังสินค้าที่ช่วยตรวจสอบคลังสินค้าได้แบบเรียลไทม์ ช่วยให้การจัดการง่ายและสะดวกมากขึ้น

3.จัดการคลังสินค้าให้เป็นระบบ

จัดการคลังสินค้าให้เป็นระบบ คุณอาจเข้าใจว่าคลังสินค้าที่ดีต้องมีพื้นที่ใช้สอยเยอะๆ ซึ่งความเป็นจริงแล้วไม่ใช่เลยคุณอาจลืมไปว่าความสำเร็จในการบริหารจัดการคลังสินค้าไม่ได้อยู่ที่ความเร็วแต่อยู่ที่ความถูกต้องมากกว่าและจะดีมากๆ หากสามารถจัดการได้อย่างรวดเร็วบนความถูกต้อง

จัดระเบียบสินค้าสร้างมาตรฐานในการจัดเก็บคลังสินค้า

4.รู้จำนวนสินค้าในสต๊อกที่แน่นอน

การจัดการคลังสินค้าที่ดีคุณต้องรู้จำนวนสินค้าที่จัดเก็บในสต๊อกที่แน่นอนระบุจำนวนสินค้าแต่ละประเภทที่มีในคลังจริง ส่วนใหญ่ธุรกิจจะสามารถจัดส่งสินค้าที่มีในสต๊อกได้อย่างรวดเร็วและธุรกิจสามารถกำหนดเวลาในการจัดเตรียมสินค้าเพื่อจัดส่งได้เป็นระบบ อีกทั้งเมื่อรู้จำนวนสินค้าในสต๊อกที่แน่นอน สินค้ารายการไหนมีมากมีน้อยเ หลือเท่าไหร่จะทำให้คุณสามารถวางแผนเพิ่ม/ลดสต๊อกได้ง่ายขึ้น

5.รู้ระยะเวลาการจัดส่งจากผู้ผลิต

หากมีการสั่งซื้อสินค้าเข้ามาเก็บในคลังคุณต้องรู้ระยะเวลาในการจัดส่งของผู้ผลิตด้วยเพื่อให้การขายสินค้าเป็นไปอย่างต่อเนื่องหรือสามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็วทันท่วงที ทั้งนี้ควรเพิ่มระยะเวลาในการเตรียมสินค้าเพื่อจัดส่งให้สอดคล้องกับการรอคอยสินค้าจากผู้ผลิต ทำให้การจัดส่งสินค้าไปยังผู้ซื้อไม่ล่าช้าเกินกว่ากำหนด

6.เช็คสต๊อกตรวจสอบคลังสินค้าเป็นประจำ

จำเป็นต้องเช็คสต๊อกอย่างสม่ำเสมอหรือตรวจสอบคลังสินค้าเป็นประจำธุรกิจ ควรกำหนดวันที่ต้องเช็คสต๊อกอย่างชัดเจนเช่น ทุกวัน ทุกสัปดาห์ ทุกเดือนหรือทุกปี เป็นต้น เพื่อตรวจสอบจำนวนสินค้าคงคลังที่มีในระบบเปรียบเทียบกับจำนวนสินค้าคงคลังที่มีอยู่จริง หรือนำมาคำนวณยอดขายและวางแผนการสั่งซื้อสินค้าเป็นลำดับต่อไป

เช็คสต๊อกตรวจสอบคลังสินค้าเป็นประจำ

7.จัดเตรียมกล่องพัสดุล่วงหน้า

การจัดการคลังสินค้าที่ดีธุรกิจจะต้องมีกล่องสำหรับบรรจุสินค้าหลายขนาดเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการในการบรรจุสินค้า 1 รายการสั่งซื้ออาจมีสินค้าหลายชิ้นสามารถประเมินจากรายการสั่งซื้อที่เคยเกิดขึ้นได้ หรือมีการกำหนดมาตรฐานในการแพ็คสินค้าที่ชัดเจน ไม่ควรใช้กล่องสินค้าขนาดเล็กเกินไปเพราะเสียงทำให้สินค้าเสียหาย หรือใช้กล่องสินค้าที่ขนาดใหญ่เกินไปทำให้มีต้นทุนสูงขึ้น

8.จัดการ Stock Keeping Unit (SKU)

กำหนด SKU ให้กับสินค้าที่ขายซึ่งต้องแตกต่างกันอย่างชัดเจนเพื่ออำนวยความสะดวกต่อพนักงานในการจัดส่งสามารถจัดส่งสินค้าได้ตรงตาม Order หรือรายการสั่งซื้อและช่วยให้การจัดการสต๊อกในระบบหลังบ้านนั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้น

9.จัดอบรมพนักงานอย่างสม่ำเสมอ

ควรมีการจัดอบรมพนักงานที่ปฏิบัติงานในคลังสินค้าหรือจัดให้มีการเทรนนิ่งเพื่อให้พนักงานเข้าใจแนวทางในการปฏิบัติงานเป็นไปในทิศทางเดียวกันสามารถปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้องแม่นยำ รวมไปถึงพนักงานที่ต้องใช้ระบบจัดการคลังสินค้า WMS มีความเข้าใจ ใช้งานเป็นเพราะต่อให้มีระบบดีมากแค่ไหนแต่ขาดความรู้ความเข้าใจในการใช้งานก็ไร้ประโยชน์

10.หาระบบจัดการคลังสินค้าที่มีประสิทธิภาพมาใช้

ระบบจัดการคลังสินค้า WMS เป็นซอฟแวร์ที่จำเป็นสำหรับคลังสินค้าอีคอมเมิร์ซหรือธุรกิจขายสินค้าออนไลน์เป็นระบบที่ช่วยบริหารจัดการตั้งแต่การรับสินค้าเข้า การจัดเก็บสินค้าไปจนถึงการส่งออก ช่วยลดเวลาในการทำงาน ลดความผิดพลาดเพิ่มความสะดวกรวดเร็ว ลดต้นทุนในการบริหารจัดการคลังสินค้าได้เป็นอย่างดี

หาระบบจัดการคลังสินค้าที่มีประสิทธิภาพมาใช้ wms

สรุป

ทั้งหมดนี้คือ 10 ขั้นตอนในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในคลังสินค้าอีคอมเมิร์ซ สามารถใช้เป็นแนวทางในการบริหารจัดการคลังสินค้าได้และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือระบบจัดการคลังสินค้า WMS (Warehouse Management Systems) OASYS WMS เราให้บริการระบบจัดการคลังสินค้าที่มีประสิทธิภาพเพื่อให้คุณบริหารจัดการคลังสินค้าได้ง่ายขึ้น

คลิกดูฟีเจอร์เพิ่มเติม

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้งานได้ตลอด 365 วัน คลิกติดต่อเรา ได้ที่นี่