E-Business และ E-Commerce คืออะไร ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ เป็นแบบไหน และทุกคนสงสัยไหมว่า แตกต่างกันอย่างไร เชื่อว่ามีหลายคนยังคงสับสน แยกความแตกต่างนี้ไม่ออก ก่อนจะไปดูว่าแตกต่างยังไง และมีความสัมพันธ์กันหรือไม่ เราแนะนำให้ทุกคนเริ่มต้นจากการศึกษาหาข้อมูลก่อนว่า E-Business และ E-Commerce คืออะไร เมื่อรู้ว่าคืออะไร มีประโยชน์อย่างไรต่อการทำธุรกิจออนไลน์ในยุคนี้ ก็จะสามารถแยกความแตกต่างได้แน่นอน และบอกเลยว่าไม่ต้องไปหาข้อมูลที่ไหนไกล เพราะว่า วันนี้ Oasys เราได้รวบรวมข้อมูลทั้งหมด ไว้ให้แล้ว ไปหาคำตอบกัน
E-Business และ E-Commerce คืออะไร
1.E-Business คือ
E-Business คือ การเนินงานทางธุรกิจ ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์และอินเทอร์เน็ต ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำธุรกิจสามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น เพิ่มความรวดเร็วในการทำงาน ประหยัดต้นทุน อีกทั้งยังช่วยขยายโอกาสทางการค้าและการบริการด้วย
E-Business หรือเรียกอีกชื่อว่า Electronic Business (ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์) โดย E-Business คือ การนำเอาเทคโนโลยีสารสนเทศมาบูรณาการในกระบวนการทำธุรกิจ ทั้งกระบวนการในการทำธุรกิจภายใน เช่น การจัดการทรัพยากรมนุษย์ บันทึกการขาด ลา มาสาย ระบบจัดการคำสั่งซื้อ ระบบดูแลลูกค้า ฯลฯ และกระบวนการในการทำธุรกิจภายนอก เช่น ระบบจัดซื้อจัดจ้าง การสร้างโอกาสทางการค้าหรือการบริการด้วย E-Business ช่วยเพิ่มศักยภาพด้านการแข่งขันและสามารถขยายธุรกิจให้เติบโตได้ในอนาคต ยกตัวอย่างการนำ E-Business มาใช้ประโยชน์ในธุรกิจ อาทิ CRM (Customer Relationship Management) ระบบบริหารความสัมพันธ์ระหว่างธุรกิจกับลูกค้า, ERP (Enterprise Resource Planning) ระบบวางแผนจัดการห่วงโซ่อุปทานหลัก, SCM (Supply Chain Management) ระบบบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานตั้งแต่ การนำเข้าวัตถุดิบ การผลิต ไปจนถึงได้รับสินค้า เป็นต้น
2.E-Commerce คือ
E-Commerce คือ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึงการดำเนินธุรกิจโดยใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ การดำเนินธุรกิจทุกอย่าง ทุกชั้นตอนผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เน้นการซื้อขายสินค้าหรือบริการผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเท่านั้น E-Commerce แบ่งเป็นหลายประเภท ได้แก่ B2C (Business to Consumer) การค้าระหว่างธุรกิจกับลูกค้า, B2B (Business to Business) การค้าระหว่างธุรกิจกับธุรกิจ, C2C (Consumer to Consumer) การติดต่อระหว่างผู้บริการกับผู้บริโภค นอกจากนั้นยังมี G2C (Government to Consumer) ระหว่างภาครัฐกับประชาชนที่ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ด้านการค้าแต่เป็นการบริการของภาครัฐผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ อย่างไรก็ตามแม้ E-Business และ E-Commerce จะต่างกันแต่มีความเกี่ยวข้องกันแน่นอน
ความแตกต่างระหว่าง E-Business และ E-Commerce
E-Business และ E-Commerce แตกต่างกันอย่างไร จากข้อมูลในเบื้องต้นที่เรากล่าวมา หลายคนเริ่มมองเห็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้นและมองออกแล้วว่ามันแตกต่างกันอย่างไร
- E-Business : การนำเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มาประยุกต์ใช้ในการทำธุรกิจ หรืออธิบายให้เข้าใจแบบง่ายๆ คือ การนำโปรแกรมหรือซอฟแวร์ที่ทันสมัยเข้ามาช่วยสนับสนุนการทำธุรกิจนั่นเอง เช่น ระบบจัดการออเดอร์ ระบบจัดการคลังสินค้า ระบบบริหารจัดการความสัมพันธ์ระหว่างธุรกิจกับลูกค้า เป็นต้น โปรแกรมเหล่านี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำธุรกิจ เพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการทำงาน ลดข้อผิดพลาดจากการทำงาน รองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต
- E-Commerce : พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นการดำเนินการซื้อขายสินค้าหรือบริการด้วยสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ผ่านอินเทอร์เน็ต หรืออธิบายให้เข้าใจง่ายขึ้น ก็คือ การซื้อขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์นั่นเอง E-Commerce แบ่งเป็นหลายประเภท เช่น B2B, B2C, C2C เป็นต้น การที่ธุรกิจหันมาให้ความสำคัญกับ อีคอมเมิร์ซช่วยให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ง่ายขึ้น เพิ่มโอกาสการเติบโตทางธุรกิจ มีต้นทุนการขายที่ต่ำ สามารถขายสินค้าได้โดยไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้าน เปิดขายสินค้าหรือบริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง ในปัจจุบันช่องทางการขายบน E-commerce มีหลากหลาย เช่น เว็บไซต์ หรือ Marketplace อย่าง shopee, Lazada เป็นต้น ความสัมพันธ์ระหว่าง e-business และ e-commerce เกี่ยวข้องกันยังไง ไปหาคำตอบในหัวข้อถัดไป
ความสัมพันธ์ระหว่าง E-Business และ E-Commerce
ถึงแม้ว่า E-Business และ E-Commerce จะมีความแตกต่างกัน แต่กลับมีความสัมพันธ์กัน E-Business หรือ ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ เป็นการดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจทุกขั้นตอนผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ มีขอบเขตที่กว้างมากกว่า E-Commerce เน้นการซื้อขายผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ ดังนั้น E-Commerce จึงเป็นส่วนหนึ่งของ E-Business นั่นเอง E-Business เปรียบเหมือนกับระบบหลังบ้าน กระบวนการทำงานที่อยู่เบื้องหลัง คอยสนับสนุนการขายของออนไลน์ให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด
สรุป
E-Business และ E-Commerce ต่างกันยังไง E-Business คืออะไร ทั้งหมดนี้ Oasys เราหาคำตอบไว้ให้แล้วสรุปแบบง่ายๆ E-Business หรือ ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์เป็นการดำเนินกิจการทุกอย่างทุกขั้นตอนผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ มีการนำเอาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มาประยุกต์ใช้ในการทำธุรกิจ การทำงานที่อาศัยซอฟแวร์ทันสมัยเข้ามาช่วยจัดการ เช่น ระบบจัดการออเดอร์ หรือระบบจัดการคลังสินค้า ก็เป็นหนึ่งในซอฟแวร์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำธุรกิจ เปรียบเหมือนระบบหลังบ้านที่คอยซัพพอร์ต ผลักดันให้การขายสินค้าหรือบริการราบรื่น ไร้อุปสรรค E-Business มีขอบเขตที่กว้างมากกว่า E-Commerce ที่เน้นการขายสินค้าหรือบริการผ่านช่องทางออนไลน์เพียงอย่างเดียว