ขายสินค้าออนไลน์ควรสร้างคลังสินค้าของเองหรือใช้บริการคลังสินค้าออนไลน์ ?

ขายสินค้าออนไลน์ควรสร้างคลังสินค้าของเองหรือใช้บริการคลังสินค้าออนไลน์ ?

เมื่อยอดขายสินค้าเพิ่มขึ้น พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์จะต้องเพิ่มสต็อกสินค้าเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าได้เต็มที่ จึงจำเป็นต้องเพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บสินค้าที่มากขึ้น แต่ยังลังเลอยู่ว่า จะสร้างคลังเพื่อเก็บสินค้าของตนเอง หรือ จะใช้บริการคลังสินค้าออนไลน์ดี แบบไหนจะตอบโจทย์กว่ากัน ในบทความนี้ มีคำตอบ

ข้อดีและข้อเสียของการสร้างคลังเก็บสินค้าของตัวเอง

ข้อดีของการสร้างคลังเก็บสินค้าของตัวเอง

  1. การใช้งานมีทางเลือกมากมายให้เลือก
    ผู้ประกอบการสามารถเลือกใช้งานคลังสินค้าของตัวเองได้ในแบบที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งอุปกรณ์เสริม การเคลื่อนย้ายสิ่งของ หรือ สินค้า การต่อเติม หรือ รื้อถอน ได้อย่างอิสระ
  2. ไม่มีการทำสัญญา
    การสร้างคลังสินค้าเพื่อเก็บสินค้าของตนเองจะไม่มีปัญหาเกี่ยวกับสัญญา ทั้งเรื่องของสัญญาระยะเวลาในการเช่า ระเบียบต่างๆ จะขึ้นอยู่กับเจ้าของกิจการ
  3. มีอสังหาริมทรัพย์เป็นของตนเอง
    การสร้างคลังสินค้าเองถือเป็นการลงทุนที่สามารถใช้ประโยชน์ได้โดยไม่ต้องเสียค่าเช่า อสังหาริมทรัพย์อาจมีมูลค่าเพิ่มขึ้นในอนาคต

ข้อเสียของการสร้างคลังเก็บสินค้าของตัวเอง

  1. ค่ามัดจำในการสร้างคลังเก็บสินค้าสูง
    การสร้างคลังเก็บสินค้า จะต้องจ่ายค่ามัดจำ 20-50% ต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมหาศาล อาจส่งผลต่อการเติบโตของกิจการ เพราะนำเงินในส่วนที่ใช้บริหารกิจการมาใช้สร้างคลังสินค้า
  2. การสร้างคลังเก็บสินค้าใช้เงินลงทุนเยอะ
    การมีคลังสินค้าเป็นของตัวเองนอกจากจะเสียเงินในการสร้างคลังสินค้าแล้ว ยังต้องเสียเงินไปกับการซ่อมบำรุง ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอุปกรณ์เสริม ค่าจ้างพนักงานดูแลคลังสินค้า และค่าใช้จ่ายแฝงอื่นๆ อีกมากมาย
  3. การสร้างคลังสินค้าต้องใช้เวลาในการสร้างนาน
    การสร้างคลังสินค้าไม่สามารถเสร็จได้ภายในเวลา 2 วัน แต่อาจจะต้องใช้เวลาสร้างนานหลายเดือน ไม่สามารถใช้งานได้ทันที อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจได้

ข้อดีและข้อเสียของการใช้บริการคลังสินค้าออนไลน์

ข้อดีของการใช้บริการคลังสินค้าออนไลน์

  1. มีเวลาไปทำการตลาดเพื่อความเติบโตของธุรกิจได้มากขึ้น
    การใช้บริการคลังสินค้าออนไลน์ทำให้ผู้ประกอบการมีเวลามากขึ้น ไม่ต้องเสียเวลาไปกับการเก็บ แพ็ค ส่ง สินค้าด้วยตนเอง เอาเวลาส่วนนั้นไปต่อยอดทางธุรกิจเพื่อเพิ่มยอดขาย
  2. ประหยัดต้นทุน
    การใช้บริการคลังสินค้าออนไลน์ไม่ต้องเสียค่าซ่อมบำรุง ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอุปกรณ์เสริม ค่าจ้างพนักงานดูแลคลังสินค้า ใช้เงินลงทุนน้อย เพราะค่าใช้จ่ายจะคิดตามจริงตามพื้นที่ที่ใช้ในการเก็บสินค้า รวมถึงค่าแพ็คและส่งสินค้าก็คิดตามจำนวนออร์เดอร์
  3. สามารถมีคลังกระจายสินค้าได้หลายที่
    เนื่องจากคลังสินค้าออนไลน์มีจุดให้บริการหลายพื้นที่ ผู้ประกอบการสามารถเลือกใช้บริการได้หลายพื้นที่ตามความต้องการ

ข้อเสียของการใช้บริการคลังสินค้าออนไลน์

  1. มีสัญญาผูกมัด
    การใช้บริการคลังสินค้าออนไลน์อาจต้องทำสัญญากัน เช่น อาจจะมีระยะเวลาขั้นต่ำในการใช้บริการ
  2. ไม่มีสิทธิ์ในสินทรัพย์
    ข้อกำหนด กฎเกณฑ์ ในการใช้บริการ เป็นไปตามที่ผู้ให้บริการกำหนด

สรุป การสร้างคลังเพื่อเก็บสินค้าเองจะมีอิสระในการใช้งานมากกว่า แต่จะต้องใช้เงินในการสร้างสูง และยังต้องเสียค่าใช้จ่ายต่างๆ และต้องคอยสอดส่องดูแลตลอดเวลาอีกด้วย

ส่วนการใช้บริการคลังสินค้าออนไลน์อาจจะมีระเบียบ กฏเกณฑ์ ที่ต้องปฏิบัติตามอยู่บ้าง แต่จะมีการรับผิดชอบส่วนงาน และค่าจ่ายที่น้อยกว่า ประหยัดต้นทุนกว่าการสร้างคลังสินค้าได้อย่างชัดเจน